สรุป ปี 2020 ปีแห่งความล้มเหลวและเหลวไหล

สวัสดีปี 2020

ถ้าคำว่า “สวัสดี” สามารถใช้ได้ทั้งความหมายของการพบเจอและจากลา
สวัสดี ในบรรทัดบนคงควบได้ทั้งสองความหมาย …

เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกที่ลองหยุดทักทาย และทบทวนกับมัน ในช่วงเวลาที่ถือว่าจะต้องจากลากันไป

ปี 2020 คงเป็นปีแห่งความทรงจำของหลาย ๆ คน
บางคนอาจเจอปัญหาเรื่องการงาน การเงิน
บางคนอาจเจอปัญหาเรื่องครอบครัว การเมือง
บางคนอาจเจอปัญหาเรื่องสุขภาพจิต จากเหตุการณ์ที่ประเดประดังเข้ามา

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยากจดจำหรือไม่ แต่ในช่วงชีวิตของพวกเรา
ปี 2020 ก็ยังคงเป็นปีที่จะต้องถูกหยิบมาพูดคุย ในวงสนทนาอีกนาน

ข้างล่างจะเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ ที่อยากบันทึกไว้ในปีนี้

การนอน

• เราค้นพบว่าวันที่นอนหลับได้ดี คือวันที่ประสิทธิภาพดีที่สุด
• การนอนเลยกลายเป็นภารกิจสำคัญของวันที่ต้องทำให้ดีให้ได้
• พบว่าการนอนเหมือนกับการขี้ คือถ้าเรามุ่งมั่นจะทำมันให้ได้ มันจะทำได้ไม่ดี
• คือยิ่งคิดมากว่าจะต้องนอนให้ดี ยิ่งนอนได้ไม่ดี ฟ้ากกกกกก
• ระยะเวลาในการนอนมีผลกับคุณภาพการนอน แต่ระหว่างทางสำคัญกว่า
• ไม่ควรนอนถ้าไม่ง่วง
• และหากตื่นแล้วการพยายามนอนต่อ ไม่ค่อยช่วยอะไรเลย
• การตื่นกลางดึกมาทำอะไร ก็อก ๆ แก็ก ๆ แล้วนอนต่อได้คุณภาพที่ดีได้ แต่ต้องมีเวลามากพอ
• การตื่นโดยไม่ใช้นาฬิกาปลุกคือนิพพาน
• เหนื่อยกล้ามเนื้อก่อนนอน ราว 2 – 3 ชั่วโมงจะนอนได้ง่ายขึ้น
• สำหรับเราการพยายามคิดเรื่องฟุ้งซ่านช่วยให้นอนหลับได้
• หรืออีกทางการควบคุมลมหายใจ ดูร่างกาย เหมือนนั่งสมาธิก็ช่วยให้นอนหลับได้เหมือนกัน
• นอนไม่หลับบางวันก็ไม่เลว เพราะวันถัด ๆ ไปร่างกายมันจะชดเชยเอง
• เปลี่ยนที่นอนบ้างก็ช่วยได้เหมือนกัน บางวันนอนที่ไม่สบายบ้าง วันถัดมาเราจะรู้คุณค่าการนอนมากขึ้น
• ไม่จำเป็นต้องนอนดี ๆ ทุกวันก็ได้ ขอให้ส่วนใหญ่ดีก็พอ
• เรื่องนอนยาวจังวะ !

การวิ่ง

• ฉิบหายโควิดลงรอบเดียวเพื่อนวิ่งหายหมด
• อย่างน้อยครึ่งปี คือระยะเวลาที่แทบไม่ได้วิ่งเลย
• ระยะวิ่งสะสม 6 เดือน น้อยกว่าตอนซ้อมจริงจัง 1 อาทิตย์เสียอีก
• พอจะกลับมาวิ่ง ก็เจอ PM2.5
• พอ PM2.5 หายก็เจอโควิดระรอก 2 ทำให้ต้องรีบเที่ยวก่อนโดนล็อกดาวน์
• ได้ลงงานวิ่งไป 1 งานถ้วน 50 กิโล จบแบบเล็บม่วง สัด!
• เป็นเล็บม่วงครั้งแรกในชีวิตเสียด้วย ไม่รู้จะรับมือกับมันยังไงดี
• สมรรภาพการวิ่งร่วงจนกลายเป็นมือใหม่ ถือเสียว่าเป็นการเริ่มปูพื้นใหม่ปีหน้าเลยแล้วกัน
• กลับมาศึกษาพื้นฐานอีกรอบ พบว่าตัวเองพื้นฐานห่วยแตกมาก
• VO2Max, ระยะการก้าว, รอบขา, หัวใจ, วิธีซ้อม, mindset, พฤติกรรมการวิ่ง แย่หมด
• กูรอดมาจากงานวิ่งก่อน ๆ มาได้ไงวะ!
• ปีหน้าจะกลับมาวิ่งแล้ว สัญญา….

การอ่าน

• ปีนี้อ่านหนังสือจบ 0 เล่ม
• ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกว่าต้องเอาเวลาไปเรียนออนไลน์มาก จนไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
• อีกส่วนหนึ่งเริ่มรู้สึกว่าในหนังสือ ไม่มีอะไรใหม่
• เรารู้เรื่องนี้จาก article ในเน็ต, จาก podcast, จาก Youtube อยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลย
• อยากอ่านนิยาย แต่ก็พบว่านิยายมันก็เพ้อฝันเกินกว่าที่เราจะทนอ่านมันได้จบ
• นึกถึงนิยายสมัยเด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูลจริง ๆ ที่ป้อนเข้ามา เดี๋ยวนี้นิยายมีแต่แฟนตาซีเกิ้นน
• หนังสือที่ดองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับความเร็วในการอ่าน ลาก่อยยย

จิตใจ

• มีช่วงที่ดาวน์มาก คือรู้สึกสิ้นหวัง ย่ำแย่ รู้สึกว่ากูใช้ชีวิตอยู่ไปทำไม เกิดมาทำไม
• ถึงตอนนี้ก็ยังดาวน์อยู่ แต่คุณสมบัติของมนุษย์คือการปรับตัว
• คือมันรู้สึกเหมือนว่ามันแย่ แต่มันแย่จนชิน จนกลายเป็นแย่เป็นปกติ
• ความภาคภูมิใจหายหมด ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง
  • ต้นปีลงทุนเจ้งระนาว เงินหายไปหลักแสน
  • ระหว่างปีมีพยายามปรับตัว แต่ก็ยังคงเจ้ง เพิ่มเข้าไปอีก
  • ปลายปีเพิ่งเจ้งไปอีกหน่อย ค่อย ๆ เรียนรู้ไป
  • ตั้งใจจะสอบ Certificte 2 ตัว ไม่สำเร็จสักตัว
  • ตั้งใจจะซ้อมวิ่ง ไม่สำเร็จ
  • ตั้งใจจะเรียนรู้ ทำอะไรเพิ่ม ก็ล้มเหลว
  • เรียนรู้อะไรก็ช้าไปหมด เหมือนมันหนืด ๆ ความภูมิใจว่าตัวเองเรียนรู้เร็วพังทลาย
  • ไปลงสัมนาโน้นนี่มากมาย แต่ก็รู้สึกว่ามันไร้สาระมาก
• รู้สึกเข้าใจความเป็นไปของโลก คือเข้าใจว่ามันโหดร้ายแบบที่มันเป็น และเราไม่มีเรี่ยวแรงไปเปลี่ยนแปลงมัน
• เป็นปีแรกที่วางแผนการตายแบบจริงจัง เป็น plan A, B, C เลย
• เข้าใจความขี้เกียจของตัวเอง ที่เป็นปัญหามาเป็นสิบปีมากขึ้น และอยู่ร่วมกับมันได้

การเงิน

• เลิกจดรายรับรายจ่าย หลังจากทำมา 4 – 5 ปี ไร้สาระฉิบหาย
• คือรายรับรายจ่าย แบบละเอียดที่ application ต่างๆทำมามันเอาไปใช้ประโยชนจริงยากมาก
• การกำหนดเป็น Budget น่าสนใจและทำง่ายกว่ามาก แบ่งเป็น categories และ track เป็นก้อน
• นึกว่าการเงินปีนี้จะแย่ แต่ทำไปทำมา ก็ So so คือไม่ดีกว่าปีที่แล้ว และไม่แย่เท่าไหร่
• อาจเป็นเพราะใช้เงินช็อปปิ้งน้อยลง แต่ช่วงสิ้นปีก็ถล่มตั้งแต่ 11.11 – 12.12 ไปเกือบ 70 ออเดอร์
• มีเงินน้อยก็ใช้น้อยเอง คนเราใช้จ่ายตามตัวเงินนั้นแหละ
• พบว่าปีนี้ 7-11 เป็นรายจ่ายที่เยอะมาก ของใน 7-11 แพงมาก โดยเฉพาะของกิน
• แต่ก็โดน True money wallet หลอกให้ใช้เพราะรู้สึกว่าจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ปีหน้าต้องปรับ

ความเชื่อ

• รู้สึกว่าความเชื่อของคนจะถูกแบ่งออกจากกันเด็ดขาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
• ไม่ได้หมายรวมแค่การเมืองนะ แต่รวมไปถึงศาสนา การใช้ชีวิต การตั้งคำถาม
• แต่กระแสหลักของสังคมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไป สังเกตุจากไอ้ไข่ฟีเว่อร์
• เราต่างหากที่เปลี่ยน คือจากเดิมเราค่อนข้างรุนแรงกับเรื่องความเชื่อพวกนี้มาก
• ไม่ใช่ว่าเราเชื่ออะไรพวกนี้นะ เราแค่รู้สึกเข้าใจ และเคารพคนที่เขาศรัทธาเท่านั้นแหละ
• กับคนที่เราไม่ได้เคารพ เราก็ยังหัวรุนแรงเหมือนเดิม ฮ่า ๆ
• เราเชื่อว่าความ ศรัทธา แย่พอๆ กับสารเสพติด คนเราควรตั้งคำถามกับทุกอย่าง
• และเว้นที่ให้ความไม่รู้ คือไม่รู้ ไม่ใช่ไม่รู้ คือเชื่อ
• แต่ก็พบว่ามันก็มีส่วนที่ ศรัทธา มันมีประโยชน์เหมือนกัน และใช้ประโยชน์จากมันได้
• ปีหน้าเราจะลองไปสัมผัสกับความศรัทธาดู

อื่น ๆ

• Cumulative หรือการสะสมเพิ่มไปเรื่อย ๆ คือ Key ที่ต้องทำให้ได้
• Stoicism ซึ่งเราอาจจะแปลไม่เหมือนที่คนอื่นตีความ เป็นสิ่งที่ต้องนึกถึงให้บ่อย
• คือเรานิยาม สโตอิกเป็นเหตุการณ์ เหมือนตอนที่เราวิ่งกลางสายฝน เหมือนตอนเราเดินป่าแบกของหนักกำลังเหนื่อยยาก หรือตอนเราต้องทำงานส่งให้ทันเวลาแม้ว่ามันจะไม่ควรทันก็เถอะ
• คือ Fcous สิ่งที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจแวดล้อม อธิบายยากจริง ๆ

สวัสดีปี 2020 และ สวัสดีปี 2021 ….