เคยได้ยินเรื่อง “การมองโลกในแง่บวก” “พลังบวก“
หรืออะไรทำนองนั้นไหม
ส่วนตัวพบว่า “มันเหลวไหลสุดๆเลยว่ะ!”
เพราะเมื่อจ้องมองเข้าไปในชีวิตของมนุษย์หนึ่งคน
มันมีทั้งความสุข ความดีงาม มีความรักจริงๆ
แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความเลวทราม ความซวย และความขมขื่นอยู่ในนั้นด้วยง
โลกที่มองเห็นแต่เรื่องดี พลังบวก
มันเป็นเพียงความพยายามที่จะหลอกตัวเองเท่านั้น
ในความสุขสมหวัง มีสิ่งที่เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นอยู่
ในความทุกข์ความผิดหวัง ก็มีใครบางคนสมหวังอยู่เช่นกัน
โลกมันมีสองด้าน
เรื่องดี ๆ ต่อตัวเรานั้นมีอยู่จริง
และเรื่องเลวร้ายต่อตัวเราก็มีอยู่จริง
มันมีคนที่ทุกข์ทน ขมขื่นมากกว่าคนอื่นจริง
และมันก็มีคนที่ประสบความสำเร็จและสุขสมมากกว่าคนอื่นจริง
ไม่ใช่เพราะพลังบวกอะไรหรอก
แค่เพราะโลกก็เป็นของมันแบบนี้
เป็นเพราะสังคมมนุษย์ร่วมกันสร้างมันขึ้นมาแบบนี้นับหมื่นปี
ไม่มีความสมดุล หรือความยุติธรรมอะไรหรอก
โลกมันไม่เคยสนใจสิ่งนั้น
ที่ทำได้อาจจะแค่
ฟูมฟายเมื่อยามที่เราแสนซวย ในขณะเดียวกันก็เข้าใจว่า เออ..มันก็เป็นเรื่องปกตินี่แหละ และชีวิตมึงอาจจะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้นก็ได้
แต่… เดี๋ยวมึงก็ชิน เดี๋ยวมึงก็จะมีความสุขกับอะไรเล็กน้อยรอบตัวได้
หรือตอนที่เราประสบความสำเร็จสุขสม
สักพักเดี๋ยวเราก็ชิน
เดี๋ยวเราก็จะอยากได้อะไรที่มันยิ่งใหญ่ขึ้น
แล้วเราก็จะผิดหวัง ฟูมฟาย
เดี๋ยวมึงก็จะหาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวมาทุกข์ได้เหมือนเดิม
สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรให้เราเปลี่ยนแปลงได้หรอก
แค่พยามเข้าใจ แม้ส่วนใหญ่มันจะทำไม่ได้
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเครื่องมืออะไรให้ใช้เลย