TedXBangkok 2020

เรื่องมันเริ่มต้นที่ TedXBangkok …

ปกติผมเป็นผู้ฟัง Ted Talk แบบห่าง ๆ คือรอฟังใน Youtube และเลือกฟังเฉพาะหัวข้อที่น่าสนใจ
แถมถ้าหัวข้อไหนเปิดมา 2 – 3 นาทีแรกวิธีการพูด หรืออะไรก็ตามไม่ถูกจริตก็ปิดทันที

แต่ก็ยังยอมรับว่า หลาย ๆ หัวข้อที่อยู่ใน Ted talk นั้นทรงพลังอย่างมหาศาล และสร้างพลังใจ แรงกระเพื่อมทางความคิด ไปจนถึงความรู้สึกอยากจะทำอะไรบางอย่างให้กับผม
เวลาที่รู้สึกอยากได้แรงบันดาลใจก็จะมองหา Ted talk มาฟัง
ซึ่งหลัง ๆ มา Ted talk ดูเกร่อขึ้น น่าสนใจน้อยลง หัวข้อมีความ deep น้อยลงมาก
เลยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ Ted talk ดูจะห่าง ๆ ออกไป
ยิ่งถ้าเป็น TedxBangkok ที่ส่วนใหญ่พูดถึงเรื่องทางสังคม ยิ่งไม่ค่อยดึงดูดผมให้ไปฟังเท่าไหร่

พอดีปีนี้ได้ฟัง podcast รายการหนึ่งเอาคนจัด TedXBangkok มาสัมภาษณ์
ในท่อนหนึ่งของการสัมภาษณ์ ผู้จัดบอกว่าปีนี้จะพิเศษขึ้น คือมีกิจกรรมนอก วัน talk ยาวนานถึง 15 วัน
และมี Briefcase หรือกล่องที่จะมีของส่งไปให้ที่บ้านด้วย

ในหัวไม่มีอะไรมากนอกจากคำว่า “คุ้ม”

คำสั้น ๆ ที่มักผลักดันเราไปทำอะไรที่น่าสนใจเสมอ….

ขั้นตอนการสมัครมีคำถามให้กรอกหลายคำถาม เป็นคำถามปลายเปิดให้เราแสดงความคิดเห็น เขียนเรื่องราวที่อยากทำ ที่สนใจ ลงไป ผู้จัดบอกว่าจะรับ 400 คน โดยคัดจากใบสมัคร
เรื่องนี้ไม่ค่อยห่วง เพราะเรื่องการเขียนใบสมัครอะไรพวกนี้นี่ ผมฉนัดมาก (ถ้ามีพลังงานพอ)
ผมน่าจะเขียนประเด็นเรื่องความเนี้ยบ food waste อะไรทำนองนี้ไป
ซึ่งก็ OK ได้รับการคัดเลือก (ซึ่งอันนี้ไม่รู้เลยว่ามีใบสมัครส่งไปเท่าไหร่ อาจจะส่งไปแค่ 400 ใบพอดีก็ได้)

พอใกล้วันเปิด (15 สิงหาคม) ก็มีพัสดุส่งมาที่บ้าน ภายในมีของหลายอย่าง ตั้งแต่กาแฟ Tim Horton, บัตรกินกาแฟฟรี, ดูหนังฟรี, หน้ากาก GQ limited edition, เสื่อ recycle และอื่นๆ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มราคาจริง ๆ

สิ่งที่น่าสนใจลำดับถัดมาคือ Leisure center
มันคือกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 – 23 สิงหาคม แต่…

จะต้องแย่งกัน !!
แต่ละกิจกรรมจะมีการกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมไว้ มีตั้งแต่แค่ 4 คน ไปจน 150 คน
แต่ส่วนใหญ่แต่ละกิจกรรมจะเฉลี่ยอยู่ที่ 8 – 20 คนเท่านั้น ซึ่งถ้าดูจากจำนวน 400 คน
จำนวน slot น่าจะไม่เพียงพอแน่นอน

ช่วงก่อนวันจะให้ยื้อแย่งสมัครกิจกรรมราว 3 -4 วัน ก็มีประกาศออกมา ว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง
ผมเองเลยต้องวางกลยุทธ์ในการสมัคร โดยเอากิจกรรมที่คิดว่าคนจะสนใจมากและรับสมัครน้อยก่อน
โดยตัวผมเองเรียงดังนี้
– ให้เหล้าเล่า : อันนี้คือไปกินเหล้ากัน กินค็อกเทล ให้ priority กดก่อนอันแรก เรียกว่า Refresh รอ
– Every Regular Sketch : กิจกรรมนี้รับแค่ 8 คน และเราอยากลองวาดรูปมาก เป็น skill ส่วนติดลบของชีวิต
– (ไม่) จบในวง : รับแค่ 8 คน สถานที่ใกล้บ้าน
– ล้อมวงเล่าเคล้ารสชา : อะไรดื่ม ๆ กิน ๆ นี่ชอบมากอยู่แล้ว รับ 15 คนต้องรีบกด
– Let’s taste before waste : ทำอาหารจากของใกล้หมดอายุ งานถนัดเลย รับหลายคนไม่ต้องรีบกด
– Movie Day : Interstellar ดูหนังฟรีรับ 150 คน กดท้ายๆได้ น่าจะเต็มยาก
– The Story of Everything : เป็น workshop เล่าเรื่องโดยคำโปรยสุดเก๋ แต่คัดคนจากใบสมัคร ค่อยๆได้

ซึ่งถ้าได้หมดคือไม่ว่างเลยทั้งอาทิตย์ แน่นอน แต่ปรากฏว่า
ถึงแม้จะรวดเร็วแค่ไหน แต่ก็มีบางกิจกรรมที่ไม่ทันจริงๆ เช่น (ไม่)จบในวง หรืออย่าง The Story of Everything ที่ไม่ผ่าน เพราะความขี้เกียจเอา link เกาะไปแปะ ไม่ได้เล่าเรื่องใหม่
ซึ่งสุดท้ายเลยต้องมาลงโทษตัวเองเขียน blog ต่อเนื่อง 15 วันนี่แหละ

เอาเป็นว่าผลลัพธ์น่าพอใจ จาก 7 workshop สำเร็จไป 5 กำลังดี
วันหลังจะทยอยมาเล่า Leisure center ที่เข้าไป join ให้ฟัง