จงส่งต่อการเปลี่ยนแปลง….

ถ้าลองวิเคราะห์ดูอาจพบว่า
สังคมที่เสพความบันเทิงมากๆ อาจเป็นไปได้ว่า
คนในสังคมอาจไม่ได้ถูกฝึกให้คิดอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อไม่ได้ใช้ตรรกะอย่างสม่ำเสมอ
สมองส่วนที่มองหาเหตุผลก็ไม่ค่อยได้ทำงานอย่างเต็มที่

เหมือนเราไม่เคยออกกำลังกาย
เมื่อเข้าฟิตเนสวันแรกแล้วยกน้ำหนัก ผลที่ได้คือเหนื่อย และเจ็บไปอีกหลายวัน
ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ล้มเลิกความคิดที่จะออกกำลังกายต่อ
เพราะเหนื่อยและเจ็บปวดเกินไป

สมองเราก็เหมือนกับร่างกาย เมื่อเราไม่ได้ใช้ส่วนไหนบ่อยๆมันก็ทำงานได้ยาก
และต้องใช้พลังงานอย่างมากในการที่จะทำงาน

เป็นไปได้ไหมที่บริบททางสังคม
ไม่เอื้อให้คนได้ออกกำลังกายสมองส่วนที่เป็นเหตุเป็นผล
ทำให้เมื่อพอต้องใช้เลยเหนื่อย เลยไม่อยากรับรู้ต่อ

ผลลัพธ์ของสัมคมแบบนี้ทำให้คนในสังคมเชื่อเกือบทุกอย่างที่รับรู้มา
ทำให้เราส่งต่อเรื่องราวที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลหากันโดยไม่พิจารณา
ทำให้เราเชื่อภาพลวงตาต่างๆได้ง่ายและสนิทใจ
และหลายครั้งเราไปทำร้ายคนใกล้ตัวด้วยความไม่รู้ของเรา

ทางออกของสังคมแบบนี้อยู่ที่ไหน?
ผมเชื่อว่าถ้าจะเปลี่ยนแปลงสังคมทั้งสังคมต้องอาศัย 2 อย่าง
1.โครงสร้างทางสังคมที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง
2. ความเชื่อของสังคมที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

แน่นอนว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลง 1 ได้
เพราะโครงสร้างทางสังคมของทุกสังคมนั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ในมือของคนที่มีเงินหรือมีอำนาจ
แต่เราพอจะจุดประกายข้อ 2 ได้

ยังไง?

ยกตัวอย่างง่ายๆ คุณถนัดมือไหน?

ลองเปลี่ยนไปใช้อีกมือในการเปิดประตูหยิบจับสิ่งของดูสิ

ราวๆ 3 – 4 สัปดาห์จากวันแรกที่ยากๆ จะค่อยๆง่ายขึ้นจนคุณสามารถใช้ทั้งสองมือได้อย่างคล่องแคล่ว

การใช้สมองก็เช่นกันเราสามารถฝึกฝนการใช้ตรรกะ
การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล การยอมรับในข้อผิดพลาดและยอมแก้ไขได้
เริ่มจากตัวเราเอง แล้วเมื่อเราแข็งแรงขึ้น
เราส่งต่อความแข็งแรงนี้ไปหาคนรอบข้างเรา
ค่อยๆพูด ค่อยๆเล่า ค่อยๆอธิบาย อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ไม่ดูแคลน และเคารพในความแตกต่าง ทีละเล็ก ทีละน้อย

ความเปลี่ยนแปลงนั้นอาจไม่ได้เกิดในรุ่นของเรา

แต่ด้วยการส่งต่อทีละเล็กละน้อยนี้
อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อของสังคมได้
เมื่อความเชื่อเปลี่ยนแปลงไป สังคมเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

เหมือนที่ผมกำลังเขียนข้อความนี้
ผมรับประกันว่าข้อความนี้ไม่ได้ง่ายที่จะเข้าใจ
แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปกว่าพลังสมองของทุกท่านที่อ่าน
เมื่อคุณใช้ความพยามและอ่านมันจนถึงบรรทัดนี้
คุณได้อ่านไปแล้วถึง 600 คำและมันอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสมองคุณไปแล้วเช่นกัน

และถ้าคุณเป็นมีความแข็งแรงในการหาเหตุผลมากพอ

คุณจะสงสัยต่อว่า

มันมี 600 คำจริงหรือเปล่า? วัดยังไง?

ถ้าเป็นเช่นนั้นขอแสดงความยินดีด้วย !
คุณพร้อมจะส่งต่อการเปลี่ยนแปลงไปให้คนอื่นๆแล้ว
ทำไมไม่ควรทำละ?