Kilimanjaro (day 4: เหน็บหนาวและยาวนาน)

Posted by

ลืมตอนเก่าๆไปแล้วใช่ไหม? คลิกกลับไปอ่านสิ
Kilimanjaro (บทเริ่ม)

Kilimanjaro (Moshi town)

Kilimanjaro (ป่าแอฟริกาในจินตนาการ)

Kilimanjaro (day 3: Shira ในสายหมอก)

Kilimanjaro (day 4: เหน็บหนาวและยาวนาน)

Kilimanjaro (day 5 : ข้าม the wall สู่ปากปล่องของปลายทาง)


ถ้าจะบอกว่ามีวันไหนที่ทรมานที่สุดในทริปนี้ก็คงเป็นวันนี้นี่แหละ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะยังปรับตัวไม่ได้และเริ่มไต่ระดับความสูงเรื่อยๆ

20170228_062955
ตื่นมาเรามองเห็นยอด Kilimanjaro อยู่ไกลๆ สวยงามและน่าสะพรึงในเวลาเดียวกัน
20170227_180728
ฝั่งทิศตะวันตก ที่ Shira Cave camp น่าจะเป็นแคมป์ที่สวยที่สุดแล้ว
20170228_092532
เห็นเป้าหมายแล้วก็เดินๆไปซะ

แม้ว่าจะแดดแรงอย่างที่เห็นในภาพแต่ในความเป็นจริงอุณหภูมิบน Kilimanjaro นั้นเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่ตลอด ทำให้ต้องถอดๆใส่ๆ เสือกันหนาวอยู่ตลอดเวลา เราค่อยๆไต่ระดับความสูงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้ชันเหมือนภูเขาในบ้านเรา
 แต่ด้วยความสูงกว่า 4000 เมตร ก็ทำให้ลมหายใจที่มีก็ไม่ค่อยราบลื่นนัก…

20170228_115225
ระหว่างเหนื่อยๆเราก็เจอ note น่ารักๆนี้ทิ้งไว้ข้างทาง

pole pole ….. กลายเป็นคำที่เริ่มได้ยินบ่อยขึ้นจากporter เนื่องจากสองวันแรกความสูงยังไม่เยอะเท่าไหร่เราจึงเดินแบบทำเวลาอย่างเมามันส์มาก พอมาเดินแบบเดียวกันในวันนี้ก็เละสิครับ
คำว่า pole pole นี้เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของ Kilimanjaro เลยก็ว่าได้ (ถึงขั้นมีเสื้อสกรีนคำนี้ขายในร้านขายของที่ละลึก) Pole Pole แปลว่าช้าๆ 
ตามแผนเราต้องไต่ความสูงไปปรับตัวที่ Lava tower ซึ่งสูง 4600 m ที่นั่นจะเป็นที่ที่เราจะไปกินข้าวเที่ยงกัน แต่แค่เดินไปได้ราว 2 ชั่วโมงครึ่งอาการปวดหัวเพื่อนเก่าก็เริ่มตามมาหลอกหลอน มันเป็นอาการปวดหัวตุบๆที่ไม่ว่าจะนอน หรือกินยาอะไรก็ไม่หาย (ในสมัยนั้นนะเดี๋ยวนี้รู้แล้วว่าแค่กิน ibuprofen ก็หายแระ) ซึ่งมันกัดกินตัวผมมาก ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย ยิ่งสูง ยิ่งปวดหัว ยิ่งรำคาญ เรียกได้ว่าแต่ละนาทีที่ผ่านไปนั้นช่างยาวนานเหลือเกิน …

3 ชั่วโมงครึ่งผ่านไป…. เหมือน Kilimanjaro อยากซ้ำเติมเราฝนเริ่มตกกระหน่ำลงมา อาการปวดหัวก็ยิ่งหนักขึ้นถึงตอนนี้เริ่มยิ้มไม่ค่อยออกแล้ว

20170228_123718(0)
ถึงซักทีป้าย Lava Tower มาพร้อมกับฝนและหมอก หยุดเดินไม่ได้เลยหนาวมาก ที่สำคัญเริ่มหิวแล้วด้วย!
20170228_130610
Lava Tower ที่เราเห็นชัดสุดได้แค่นี้ …..

หลังจากนั่งกินข้าวแบบทรมานสุดๆเพราะทั้งปวดหัวและหนาวเหน็บ เราก็ออกเดินทางต่อ

คราวนี้เราเริ่มลงแล้ว ระบบหายใจ การเต้นของหัวใจเริ่มกลับมาปกติ ฝนก็หยุดตกไปด้วย อาการปวดหัวก็เริ่มลดลงหรือเริ่มชินก็ไม่รู้นะ แต่ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ

อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง….

20170228_141144
ต้น giant groundsels เทียบกับคน
20170228_141252
และผิวที่ต้นของมัน
20170228_141556
giant lobelia
20170228_142138_001
giant lobelia และดอกของมันต้องพลิกดูถึงจะเห็น เค้าว่ากันว่าหาดูยากเหมือนกัน

หลังจากเดินมา 6 ชัวโมงเราก็ได้เจอสิ่งนี้

20170228_151211
Baranco wall ตั้งตระหง่านขวางเราอยู่ และพรุ่งนี้เราต้องเริ่มต้นวันด้วยการข้ามสิ่งนี้ไป !
20170228_151802
6 ชั่วโมงครึ่งในที่สุดก็ถึงแคมป์ ลงมานอนที่ 3900เมตร เหมือนเดิม
Capture
เดินไป 11.35 km ใช้ระยะเวลา 6:36 hours สั่งเกตุว่าเราเดินอ้อมๆมา เพื่อที่จะไปปรับตัวที่ Lava Tower ใกล้ปากปล่องเข้าไปเรื่อยๆ

 

สรุป VDO วันที่สาม

 

 

 

 

5 ความเห็น

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s