OSI MODEL ยาขมขนานแรกแห่งโลก COMPUTER NETWORK ตอนที่ 2

กลับมาตอนที่สอง …..

ประเด็นที่ทำให้คนส่วนใหญ่งงคือว่าไอ้ OSI model จริงๆแล้วมันทำงานยังไงกันแน่
ง่ายๆครับ… จริงๆแล้ว OSI model เนี้ยะสิ่งที่ทำให้เกิดการเป็น standard ได้
คือชั้นบางๆระหว่างแต่ละชั้นนี่แหละครับ

เส้นบางๆที่ผมวงในรูปนั้นเอาจริงๆมันก็ไม่มีจริงอีกนั้นแหละ (เริ่ม Zen ขึ้นเรื่อยๆ)
ผมเปรียบเทียบว่าในแต่ละ layer คือแต่ละประเทศทีนี้ถ้าสองประเทศจะสื่อสารกันละ
มันก็มีสองวิธีใช่ไหมฮะ คือ 1.จ้างล่าม 2.ตกลงภาษากลางขึ้นมาใช้มันซะเลย
แต่การจ้างล่ามนั้นมันค่อนข้างทำให้การสื่อสารทำได้ช้า ไม่ทันใจวัยรุ่น
ฉะนั้น OSI model นี่แหละคือภาษากลางที่ถูกกำหนดขึ้นมาให้คุยกัน

ทีนี้ต้องถามว่าเราจะเอา OSI model ไปใช้ทำอะไร
ถ้าเราต้องการจะทำความเข้าใจหรือแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบ network เราก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักมัน
ก็เหมือนกับหมอที่ต้องรู้จักการทำงานของร่างกาย ถึงจะรักษาโรคได้นั้นเอง

ลักษณะการรับส่งข้อมูลตาม OSI model เป็นยังไง? 
เวลาเรามีข้อมูลที่ต้องการจะส่งไปให้ผู้รับ แต่ต้องการจะสื่อด้วยภาษากลาง
การทำงานในระบบคอมพิวเตอร์จะใช้วิธีการที่เรียกว่าการ “Encapsulation”
ซึ่งจริงๆแล้วมันคือการแปะข้อมูลภาษากลางที่ตกลงกันไว้นำหน้าข้อมูลจริงๆนั้นเอง
หรือในเชิงเทคนิคที่เค้านิยมพูดกันคือการ “แปะเฮดเดอร์”

ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับการที่เราจะต้องจ่าหน้าซองจดหมายนั้นแหละ
ฉะนั้นเราลองมาดูภาพยาวๆที่พยายามอธิบายการส่งข้อมูลกัน

เริ่มต้นเรามีข้อมูลที่อยากจะส่งจาก application ที่เราใช้ เราก็จะแปะ Header Layer 7 นำไป
แล้วส่งไปยัง Layer 6

หลังจากนั้นเมื่อจะส่งไปยัง Layer 5 ก็ทำกระบวนการเดิมคือแปะ Header Layer 6 ลงไป
โดยมอง data และ header layer 7 เป็นแค่ data ก้อนหนึ่ง

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆที่ละ Layer ๆ จนส่งถึง Layer ล่างสุด
Layer 1 พิเศษหน่อยตรงที่ไม่มี Header แต่จะทำการแปลงข้อมูลทั้งหมดเป็น bit 0 1 ส่งไปตามสาย

ในทางตรงข้ามเมื่อฝั่งรับข้อมูลได้รับข้อมูลที่เป็น bit มาก็เอามาตีความเป็น data
โดยกลไกในฝั่งรับจะทำตรงกันข้ามคือ ต้องทำการอ่านแล้วถอด Header ออกส่งไปยัง Layer บน
เค้าเรียกกระบวนการในการถอด Header ออกว่าการ “De-Encapsulation”
จนสุดท้ายปลายทางจะได้เฉพาะ Data ที่ต้องการส่งไปโดยไม่มี Header ใดๆเหลืออยู่อีก ….

ในตอนที่ 2 นี้ผมอยากให้เห็นภาพของการรับ-ส่งข้อมูลในภาพกว้างๆกันก่อน
ทีนี้ประเด็นสำคัญอีกอย่างก็คือแล้วไอ้ในแต่ละ Layer มันแตกต่างกันยังไงละ ?
เป็นประเด็นมหากาพย์ที่ต้องอธิบายอีกยืดยาว ในตอนที่ 3 ซึ่งจะนำเราไปสู่แนวทางของการแก้ปัญหาทุกๆอย่างในระบบ computer network เลยทีเดียว