คิดว่า review นี้น่าจะครบทุกฟังก์ชั่นจริงๆ ตั้งแต่การเปิดใช้ การใช้งาน ไปยันการรับประกันเลยทีเดียว ใครจะใช้ก็ลองอ่านดูนะ

เรื่องราวมันเริ่มต้นที่… จู่ๆผมก็อยากซ้อมแบบจริงๆจังๆ

คือวิ่งมา 5 – 6 ปี ได้แต่ซ้อมก๊อกๆแก๊กๆ เอาสัญชาติญาณตัวเองเข้าว่าอย่างเดียว เหนื่อยก็พักอยากวิ่งก็วิ่ง อาศัยกะๆเอา

ทีนี้พออยากจะซ้อมจริงจังใช่มะ มันก็เลยต้องการอุปกรณ์ที่จริงจังขึ้นมานิดนึงตามประสาคนสายอุปกรณ์
คือหลักๆอยากเห็น heart rate หรืออัตราการเต้นของหัวใจของตัวเองว่าอยู่ระดับไหนยังไง และอยากเห็น VO2Max ด้วย แต่จะให้ไปซื้อ Garmin Fenix 5 ก็รู้สึกเสียดายเงินอยู่เพราะ Fenix 3 ที่ใช้อยู่ก็ยังทำงานได้ปกติ

แรกๆก็เล็ง Garmin 935, Garmin 645 อยู่ แม้ราคาจะพอรับได้แต่ก็เสียดายตังอยู่ดี ใจนึงก็คิดว่าเราคงวิ่งจริงๆจังๆ ไปได้อีกไม่นานหรอก ….

และแล้ววันนึงเมื่อกำลังไถ feed ของ shopee ไปมาอยู่ดีๆก็เจอกับ Amazfit pace

Amazfit เป็นหนึ่งในไลน์สินค้าของ Xiaomi ที่แตกไลน์มาทำแบรนด์สุขภาพ มีตั้งแต่นาฬิกา สายรัดข้อมือ รองเท้า เสื้อผ้า ไปยันเครื่องชั่งน้ำหนัก ส่วนหนึ่งผมเองก็ค่อนข้างเชื่อมั่นในแบรนด์ Xiaomi อยู่แล้วดังนั้น Amazfit เลยเข้ามาอยู่ในโฟกัสของผมทันที

ตัว Amazfit pace เองแม้จะดูดีมาก มีเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจด้วยแต่ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง
และแล้วเมื่อค้นต่อไปเรื่อยๆก็พบกับ Amazfit Stratos ซึ่งถือเป็นตัวท็อปในตระกูลนาฬิกา Amazfit แล้ว (ราคาแพงสุดฟังก์ชันครบที่สุด)

ลองไปอ่านรีวิวดู ก็มีรีวิวบอกว่าใช้ได้เลย แถมน้ำหนักเบาและแบตอึดกว่า Fenix อีกด้วย !!
ราคาศูนย์ Mi ไทยราคาราวๆ 7 พันบาท ถูกกว่า Fenix ถึง 4 เท่า!! แต่ก็ยังอ่านๆไถๆ ไม่ยอมซื้อเสียทีจนกระทั่ง…..

รู้ตัวอีกทีของก็ส่งมาถึงที่บ้านแล้ว…

แน่นอนว่าอันดับแรกต้องเปิดใช้งาน เลย การเปิดใช้งานทำผมกังวลอยู่หน่อยๆ เพราะมันเปิดช้ามากกก

การเชื่อมต่อ

ความน่าหงุดหงิดอันแรกคือมันเป็นนาฬิกาที่เปิดใช้เฉยๆไม่ได้ มันต้อง Sync กับโทรศัพท์ก่อนอย่างน้อยครั้งหนึ่ง เพราะไม่งั้นมันจะมีแค่หน้า QR code ลอยขึ้นมาเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้เลย

OK application ที่ต้องใช้คือ Amazfit เป็น application ที่มีทั้ง Android และ iOS โดยตัว application จะบังคับให้มือถือเราเปิด Bluetooth ก่อนแล้วค่อยสั่งเพิ่มอุปกรณ์ ซึ่งก็ใช้งานง่ายตามสไตล์ XiaoMi แค่เอากล้องส่อง QR code บนมือถือก็สามารถเชื่อมต่อกันได้แล้ว ไม่ยากเท่าไหร่

เมื่อเราต้องการจะ Sync activities ของเรากลับไปยังมือถือก็แค่กดเข้าไปใน application รอซักแปบมันก็จะ sync ให้เอง แต่… มันจะอยู่แค่ใน app Amazfit ดังนั้นอย่างแรกคือต้องทำให้มัน online ไปยังที่อื่นๆให้ได้ก่อน ซึ่งหลังจากค้นหาอยู่นานก็พบว่ามันสามารถ Sync ได้เฉพาะกับ Strava เท่านั้น ซึ่งที่แย่คือผมไม่ค่อยได้ใช้ Strava เท่าไหร่นัก ทุกอย่างของข้าพเจ้าอยู่บน Endomondo และ Garmin ทั้งหมด
แต่เอาวะ อย่างน้อยมันก็ไปอยู่ online แล้ว

โดยในที่สุดผมก็ใช้บริการที่ชื่อว่า tapiriik (http://www.tapiriik.com) มาช่วย sync เอา activities จาก Strava ไปยัง Endomondo อีกที เป็นอันจบปัญหานี้

แต่เดี๋ยวก่อนปัญหาสุดท้ายคือ activities ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในร่ม เช่นวิ่งบนลู่วิ่งจะไม่ sync จาก application Amazfit ไปยัง Strava ด้วยแปลว่าถ้าอยากให้มีใน Strava จะต้องไปสร้างเองใน Strava ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่หงุดหงิดใจผมอย่างมาก

สรุป ด้านการเชื่อมต่อยังมีปัญหาอยู่บ้างไม่สามารถใช้กับทุกบริการได้เหมือนยี่ห้อมาตรฐานอื่นๆ แต่พอจะแก้ไขได้มีความหงุดหงิดนิดหน่อย ถือว่าผ่านไปฉิวเฉียดๆ

การใช้งาน GPS 

ไม่รู้เป็นเพราะอะไรแต่สามารถบอกได้เลยว่าระยะทางที่ Amazfit Stratos บอกมันแม่นยำมากกก แม่นยำแบบที่ Garmin ไม่เคยทำได้ คือปกติแล้วเมื่อเราหยุดยืนเฉยๆหรือเข้าที่ร่ม นาฬิกายี้ห้ออื่นอย่าง Garmin หรือ Sunnato จะมีระยะที่เคลื่อนที่ไปต่อซึ่งในวงการเราเรียกว่าการ “ไหล” ไอ้ไหลนี่ถ้าวิ่งไกลๆระดับร้อยกิโลเมตรอาจจะมีระยะไหลได้ 5 – 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่ Amazfit Stratos กลับบอกระยะได้ตรงเป๊ะๆๆๆๆ คือ ตรงเป๊ะจนท้ออ่ะ ฮ่าๆๆๆ

แต่ระยะเวลาในการหาดาวเทียมเพื่อเชื่อมต่อครั้งแรกค่อนข้างนานหน่อย แถมการหาดาวเทียมเจอหรือไม่เจอก็ค่อนข้างในเวลาที่ไม่แน่นอน แต่รวมๆถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่รับได้อยู่แค่ถ้าต้องไปที่ไกลๆ จากที่ที่เราเคยอยู่ปกติมากๆเช่นไปต่างประเทศ อาจจะต้องเผื่อเวลาในการค้นหาดาวเทียมไว้สักหน่อย แต่รวมๆถือว่ายังพอรอได้

ทดลองเปิด GPS ใช้งานต่อเนื่องได้เกิน 12 ชั่วโมงยังเหลือแบตอีก 30% รวมๆน่าจะใช้งานได้ถึง 18 ชั่วโมง ถือว่าผ่าน คุ้มราคามากๆ

สรุป GPS ดีมากแม่นมากจนน่าตกใจ แต่แอบทำให้ท้อไปหน่อยเพราะไม่ได้ระยะไหลเลย 

mode การใช้งาน 

มี mode การใช้งานหลากหลายมาก ทั้งวิ่ง ปั่น ว่ายน้ำ ปีนเขา กระโดดเชือก ฯลฯ ถือว่า mode การออกกำลังกายครบดีมาก

มีโหมดที่สามารถใช้ในชีวิคประจำวันได้เช่น นับก้าว หรือวัดการเต้นของหัวใจตลอดเวลา หรือแม้แต่โหมดติดตามการนอนว่านอนหลับสนิทไหม นอนไปกี่ชั่วโมง มีตื่นระหว่างทางไหม หลับลึกหรือเปล่า แล้วโหมดการนอนนี่ดีมากคือไม่ต้องคอยบอกมันว่าเราจะนอนแล้ว (เหมือน fitbit บางรุ่น) Amazfit Stratos สามารถใส่นอนดื้อๆได้เลยแล้วมันรู้เองว่าเรานอนแล้ว และด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบามาก ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการใส่นอนมากนัก

สรุป โหมดในการทำงานครบถ้วนทุกกิจกรรมเลย รวมๆถือว่าพอใจมากก 

User interface 

เป็นจุดให้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่านาฬิกาออกกำลังกายไม่ควรใช้จอสัมผัส…. Amazfit Stratos ใช้การควบคุมส่วนใหญ่เป็นจอสัมผัสทั้งๆที่ตัวเองมีปุ่มตั้ง 3 ปุ่ม แต่ไม่สามารถใช้ปุ่มพวกนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ทำให้การใช้งาน การเข้าถึงเมนูต่างๆ ของ Amazfit Stratos นั้นใช้งานได้ยากมาก แถมปัญหาหลักๆของจอสัมผัสมี 2 เรื่องคือ

มันมีโอกาสไปโดนเมนูต่างๆได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ Stratos เลยตัดสินใจออกแบบให้เมื่อเราไม่ได้กดอะไรซักพักหนึ่งมันจะล็อคหน้าจอไปเอง ซึ่งจะเปิดหน้าจอเพื่อดูโน้นนี่ได้จะต้องกด ปุ่มหนึ่งครั้งก่อนถึงจะเปิดได้ ซึ่งเสียเวลาและชวนหงุดหงิดมาก แถมไอ้ฟังก์ชันล็อคหน้าจอที่ว่าเผลอฟลุคๆ มันก็มีสิทธิไปปลดล็อดเองและไปโดนเมนูต่างๆเองได้

อุตส่าห์หาวิธีแก้ปัญหาแต่ดันทำให้ใช้ยากขึ้นและปัญหาก็ยังเกิด ถือว่าเฟลสุดๆไปเลย

อีกอย่างที่แย่ของหน้าจอสัมผัสคือเมื่อเราเปียกมากๆ บางครั้งหน้าจอก็ไม่สามารถสัมผัสได้ ต้องพยายามเช็คก่อนซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความน่ารำคาญจริงๆ

จะมีเรื่องดีซักอย่างก็อยู่ที่การเอาไฟล์ใส่เข้าออกทำได้ง่ายมากแค่ต่อกับคอมพิวเตอร์ก็สามารถเอาแผนที่ เอาเพลง ใส่เข้าไปตรงๆได้เลยไม่เรื่องมาก และการเปลี่ยน Face watch หรือหน้าปัดนั้นทำได้ง่ายมาก แค่กด application ในมือถือมันก็จะเปลี่ยนหน้าตาได้ทันที อันนี้ชอบกว่า Garmin มาก

สรุป หน้าตาการใช้งานไม่ผ่าน การเลือกเอา touch screen มาใช้นั้นโครตล้มเหลวแม้จะมีหน้าตาหน้าปัดให้เลือกเยอะมากแต่ใช้งานจริงไม่ค่อยได้เรื่องเลย 

การชาร์จและสายนาฬิกา

สายชาร์จดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ระบบล็อคกับตัวนาฬิกาใช้ค่อนข้างยากต้องใช้แรงกดนิดหน่อย แต่ชาร์จเร็วมากไม่ถึงชั่วโมงก็เต็มแล้ว และสามารถชาร์จไปวิ่งไปได้ activity สามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ตำแหน่งการชาร์จไม่สามารถใส่ไปชาร์จไปได้ ต้องถอดออกมาเท่านั้น จะว่าไปก็เหมือนๆกับ Garmin ทั่วไป

ส่วนสายเป็นแบบเปลี่ยนง่ายไม่ต้องใช้ไขควงเลยสามารถเปลี่ยนสายได้ในระดับไม่ถึงนาที และมีสายให้เลือกใช้มากมายซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่น่าพอใจมาก

สรุป การชาร์จ OK ไม่มีปัญหาเท่าไหร่และชาร์จเร็วมาก ส่วนสายนาฬิกาเปลี่ยนง่ายและมีให้เลือกเยอะมาก

เซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจ

นี่น่าจะเป็นฟังก์ชันหลักที่ทำให้อยากซื้อนาฬิกาอย่าง Stratos เลย

การวัดการเต้นของหัวใจค่อนข้างแม่นยำเทียบกับเครื่องวัดหัวใจในลู่วิ่งฟิตเนส แต่ไม่แม่นยำเท่าสายคาดอกในกรณีวิ่งนานๆ ที่ชอบมากคือ mode continuous HR คือวัดหัวใจต่อเนื่องตลอดเวลาแม้เราจะไม่ได้ออกกำลังกาย

แต่ถ้าเข้าโหมดการออกกำลังกายนาฬิกาจะเปิดการวัดการเต้นของหัวใจให้ทันที

แต่ปัญหาน่าจะเริ่มเกิดขึ้นที่นี่แหละ เข้าใจว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้ใน Amazfit Stratos นั้นน่าจะคุณภาพไม่ดีพอถ้าออกกำลังกายไปนานๆ ตัวเซ็นเซอร์จะเริ่มร้อนจนร้อนมากแบบว่าแสบไหม้เลย จนในที่สุดเครื่องก็จะ over heat คือร้อนเกินไปจนดับไปเอง ทำให้ไม่สามารถเอาไปใช้ในกีฬาหนักๆอย่างอัลตร้ามาราธอนได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เป็นสิบๆครั้งจนแน่ใจแล้วว่ามีปัญหาแน่ๆ เลยเอาไปเคลม

สรุป เซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจห่วยจนใช้งานหนักๆไม่ได้ แต่พอใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปได้ 

การรับประกัน 

แน่นอนว่าแม้ซื้อจาก Shopee แต่ก็ยังรับประกันศูนย์ไทยอยู่เลยโทรเข้าไปที่ศูนย์แจ้งหมายเลข Serial Number ทาง call center แจ้งว่าศูนย์ไทยแน่นอนให้เข้าไปที่ศูนย์ได้เลย

เลยจัดแจงไปที่ศูนย์พันทิพย์ประตูน้ำ ปรากฏว่าหนักงานเองก็งงๆว่าต้องไปหาจากไหน รออยู่นานราวๆ ชั่วโมงนึงในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่าไม่รู้เหมือนกันแต่ไม่มีข้อมูลอยู่ !!!

เอ้า!! ก็กูเพิ่งโทรหา call center เมื่อกี้อ่ะ 

ในที่สุดพนักงานก็สอบถามว่าซื้อมาจากที่ไหน ผมก็แจ้งไปว่าซื้อมาจาก shopee ซึ่งต่อมาผมสอบถามไปทางคนขายที่ shopee ก็แจ้งว่าซื้อมาจาก JD central อีกที…. ซึ่งพอมาถึงตรงนี้พนักงานเริ่มโบ้ยไปมาแล้ว คือเค้าบอกว่าอาจจะเป็นของที่บริษัท Fanlink เอามาซึ่งไม่เกี่ยวกับเค้าหรือเปล่า???

สรุปโทษไปโทษมาจนไม่สามารถเคลมอะไรได้ !!

สรุป การรับประกันห่วยแตกมากกก!!! อย่าได้คาดหวังการเคลมอะไรเลย ไม่น่ารอด 

---

แต่เอาเข้าจริงๆแล้วนาฬิกามันก็ไม่ได้เสียหรอก

แค่มันทำงานสมบุกสมบันไม่ได้อย่างที่คุย สามารถเอามาใช้ซ้อมวิ่ง 15 -20 กิโลได้ ใส่วัดการนอนได้ ใส่ในชีวิตประจำวันได้ แต่พึ่งพามันไปอัลตร้ามาราธอนไม่ได้อย่างแน่นอน 

สรุปของสรุป 

ราคา 4 พันกว่าๆเป็นนาฬิกาเอาไว้ซ้อมได้ เอาไว้ใส่นอนได้ ใส่ในชีวิตประจำวันได้ ก็พอผ่านนะ แต่ถ้าใครคาดหวังความเจ๋งอย่าง Garmin หรือ Sunnato อย่าไปหวังเลย ราคาับคุณภาพยังสะท้อนไปมาอย่างตรงไปตรงมาอยู่

ความรู้สึกคือไม่เสียดายนะ แต่ไม่ ok กับการรับประกันเท่านั้นเอง กลับไปซบอก Garmin เหมือนเดิม ฮือๆๆๆ